โธมัส ทุล หัวหน้าผู้บริหารของเลเจนดารี พิคเจอร์ส พูดเอาไว้เมื่อตอนหนัง Godzilla ฉายรอบปฐมทัศน์ในฮอลลีวู้ดเมื่อ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมาถึงภาคต่อของหนังว่า “ถ้ามันออกมาดี เราก็จะคิดหาทางกัน” ปรากฏว่าหนังออกมาดีด้วยในแง่รายได้ เพราะเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐไป 93.2 ล้านเหรียญ สูงที่สุดเป็นอันดับสองของปีนี้ในตอนนี้ รองจาก Captain America: The Winter Soldier ส่วนรายได้นอกบ้านก็ได้เงินไปร่วม 103 ล้านเหรียญ ถือว่าตอนนี้ก็ทำเงินไป 196 ล้านเหรียญจากทั่วโลกแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ออกฉายในจีน คะแนนจากผู้ชมในสหรัฐก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ได้เกรด B+ จาก CinemaScore ซึ่งมาจากการสำรวจด้านการตลาด มีแววที่หนังจะทำเงินมากกว่า Godzilla ฉบับปี 1998 ที่ทำเงินทั่วโลก 379 ล้านเหรียญ ไปแบบเท่าตัวเลย การมีภาคต่อของหนังจึงต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ตามรายงานจากวาไรตี้ครับ
“มันสมเหตุผลแล้ว สถานการณ์นี้ดีที่สุดสำหรับเราแล้วเมื่อมีผู้ชมกลุ่มหนึ่งซึ่งเราคาดว่าจะผิดหวัง แต่กลับประทับใจ” จอน แจชนิ ประธานและหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ของเลเจดารี พิคเจอร์ส บอก
Godzilla ใช้ทุนสร้าง 160 ล้านเหรียญ โดยเลเจนดารีออกเงินไปราว 75% ที่เหลือเป็นการสมทบจากวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ขณะที่งบด้านการตลาดหารกันคนละครึ่ง ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันสร้างภาคต่อ Godzilla ตามที่รายงานบอก ซึ่งน่าจะเป็นงานผลิตภาพยนตร์เรื่องเดียวที่เลเจนดารีฯ ยังร่วมทำกับวอร์เนอร์ฯ หลังจากย้ายไปผลิตงานให้ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส แล้ว
ในรายงานไม่ได้บอกว่านักแสดงหลักจะกลับมาอีกไหม และผู้กำกับกาเรธ เอ็ดเวิร์ดส์ จะได้กำกับภาคต่อไหม แต่เอ็ดเวิร์ดส์บอกว่าถ้าเขาได้กำกับภาคต่อ ก็จะใช้แนวทางเดียวกันกับที่กำกับ Godzilla ตรงที่จะเผยสัตว์ประหลาดแบบเต็มๆ ในองก์สุดท้ายของหนัง เอ็ดเวิร์ดส์ยังเคยเล่าไว้เมื่อปีที่แล้วในงานคอมมิคคอนว่า เขาอยากจะเอาแรงบันดาลใจจากภาค Destroy All Monsters หนังปี 1968 ที่จะมีสัตว์ประหลาดมากมายหลายตัว ลองชมตัวอย่างได้ที่ด้านในครับ
หน้าที่เข้าชม | 2,387,690 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,213,488 ครั้ง |
เปิดร้าน | 20 ธ.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |